FAMZ

10 ความเชี่ยวชาญที่เจ้าของธุรกิจครอบครัว “ต้องมี”

14/08/2025

 

 

 

การเตรียมพร้อมสำหรับการสืบทอดกิจการของทุกธุรกิจครอบครัวถือเป็นความจำเป็นที่ “ต้องมี” เพราะอาจเกิดเหตุไม่คาดฝัน หรือความผิดพลาดหากเตรียมทายาทผิดคน หรือไม่ทันการ หรือหากคิดหาทางออกด้วยการหามืออาชีพมาบริหารก็อาจมีปัญหาของการไม่เตรียมพร้อมสำหรับการเป็นเจ้าของกิจการที่อาจมีข้อเสียมากมาย เมื่อเวลาผ่านไป เช่น ผู้บริหารมืออาชีพอาจปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่สำคัญโดยไม่ปรึกษาเจ้าของกิจการ รวมถึงการระงับการจ่ายเงินปันผล หรืออาจร้ายแรงถึงขั้นเบียดบังทุจริต นำเงินเข้ากระเป๋าตัวเองด้วยแพ็คเกจค่าตอบแทนที่สูงลิ่ว และท้ายที่สุด อาจโน้มน้าวเจ้าของธุรกิจให้ขายธุรกิจที่ "กำลังประสบปัญหา" ให้กับตนเองในราคาถูกๆ (ซึ่งมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นจริงๆ)  ฯลฯ

 

นี่ก็อาจทำให้ธุรกิจครอบครัวที่ผู้ก่อตั้งบุกเบิกสร้างมาตลอดชีวิตต้องจบแค่นี้ ซึ่งในความเป็นจริงอาจไม่ใช่เรื่องแปลกที่เจ้าของธุรกิจครอบครัวหลายคนที่แม้จะมีการศึกษาหรือภูมิหลังที่ดี แต่เมื่อมิได้เตรียมพร้อมสำหรับการเป็นเจ้าของกิจการให้กับตนเองหรือทายาท ที่สำคัญ เจ้าของธุรกิจครอบครัวมักจะมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิจำนวนมากผูกติดอยู่กับบริษัท พร้อมกับการลงทุนทางอารมณ์จำนวนมากอันเนื่องมาจากประวัติศาสตร์และมรดกของธุรกิจ เนื่องจากมุ่งมั่นกับธุรกิจเดียวมากกว่าพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายต่างจากธุรกิจครอบครัวที่เป็นบริษัทมหาชน

 

ด้วยว่า การเป็นเจ้าของธุรกิจครอบครัวนั้นทรงพลัง และได้รับการมอบสิทธิ์ในการตัดสินใจในเกือบทุกแง่มุมของธุรกิจ ไม่ว่าจะด้วยการกระทำหรือไม่ก็ตาม ล้วนมีอิทธิพลอย่างมากต่อความสำเร็จหรือความล้มเหลวในระยะยาวของบริษัท เพื่อให้ธุรกิจครอบครัวอยู่รอดได้ เจ้าของธุรกิจต้องเตรียมพร้อมที่จะทำหน้าที่สำคัญนี้ ซึ่งข้อดีของประเด็นนี้ก็คือ ใครๆ ก็สามารถเรียนรู้การเป็น “เจ้าของธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ” (Effective Owner) ได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษาขั้นสูง เช่น MBA หรือนิติศาสตร์ แต่สิ่งที่ธุรกิจครอบครัวต้องการ คือ ความเต็มใจที่จะเรียนรู้และนำหลักการแห่งความเป็นเจ้าของไปประยุกต์ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

10 คุณสมบัติของ “เจ้าของกิจการที่มีประสิทธิภาพ”

คุณสมบัติสำคัญของ Effective Owner ที่เจ้าของกิจการทุกคนควรพัฒนาเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจครอบครัวอย่างมีประสิทธิภาพนั้นมิได้หมายถึง การบริหารจัดการธุรกิจโดยตรง เนื่องจาก “การเป็นเจ้าของ” แตกต่างจาก “การบริหาร” ที่สำคัญ เจ้าของธุรกิจสามารถมีบทบาทได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการดำเนินงานประจำวัน แต่ควรมีความเชี่ยวชาญใน 10 คุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

 

ประวัติและค่านิยม

เจ้าของกิจการที่มีประสิทธิภาพควรต้องเข้าใจประวัติของครอบครัว และวิวัฒนาการของธุรกิจครอบครัวที่มีความผันผวน ทั้งช่วงเวลาที่รุ่งเรืองและช่วงเวลาท้าทาย การเข้าใจเรื่องราวการก่อตั้ง วิวัฒนาการของธุรกิจ และค่านิยมหลักอย่างลึกซึ้งเป็นสิ่งจำเป็น

 

โครงสร้างนิติบุคคล

เจ้าของควรเข้าใจว่า โครงสร้างธุรกิจของตนเป็นแบบใด เพราะแต่ละรูปแบบมีผลต่อเจ้าของในด้านต่าง ๆ เช่น ภาษี การเข้าใจโครงสร้างช่วยให้สามารถจัดการภาระภาษีและลดความเสี่ยงได้

 

การวางแผนมรดก

เจ้าของต้องคำนึงถึงภาษีมรดกในเขตอำนาจศาลที่มีการบังคับใช้ และต้องรู้จักเครื่องมือในการโอนความเป็นเจ้าของอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้สิทธิยกเว้นภาษีการให้ การตั้งทรัสต์ และการทำประกันชีวิต รวมถึงต้องเข้าใจโครงสร้างของทรัสต์ บทบาทของผู้ดูแลทรัสต์ และผู้รับผลประโยชน์

 

การกำกับดูแลธุรกิจครอบครัว

ธุรกิจครอบครัวเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วน ได้แก่ ครอบครัว เจ้าของ คณะกรรมการ และฝ่ายบริหาร เจ้าของจำเป็นต้องเข้าใจวิธีการตัดสินใจในแต่ละภาคส่วน บทบาทการมีส่วนร่วม และสิทธิรวมถึงความรับผิดชอบในกระบวนการตัดสินใจ

 

การกำกับดูแลกิจการ

เจ้าของกิจการที่มีประสิทธิภาพต้องเข้าใจหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี พร้อมกำหนดและปรับปรุงมาตรฐานเหล่านี้ผ่านเอกสารทางกฎหมาย เช่น ข้อบังคับบริษัทและข้อบังคับย่อย นอกจากนี้ ยังมีบทบาทสำคัญในการเลือกตั้งกรรมการบริษัทซึ่งจะทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและสนับสนุนผู้นำธุรกิจ

 

กลยุทธ์ของเจ้าของ

เจ้าของุรกิจเป็นผู้กำหนดนิยามความสำเร็จของธุรกิจ ครอบคลุมทั้งเป้าหมายทางการเงินและเป้าหมายอื่น ๆ พร้อมทั้งพัฒนากลยุทธ์ของเจ้าของที่ระบุวัตถุประสงค์ หลักการ และแนวทางเพื่อกำหนดทิศทางให้คณะกรรมการและฝ่ายบริหาร

 

การเงินองค์กร

เจ้าของควรมีความรู้พื้นฐานด้านการเงินขององค์กร เช่น ตัวชี้วัดสำคัญ ได้แก่ ผลตอบแทนรวมแก่ผู้ถือหุ้น (Total Shareholder Return) อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) อัตราส่วนหนี้สินต่อกำไร และอัตราการจ่ายเงินปันผล นอกจากนี้ การเข้าใจแนวคิดการประเมินมูลค่าและการทำธุรกรรมก็เป็นประโยชน์เช่นกัน

 

การเงินส่วนบุคคล

การเงินส่วนบุคคลของเจ้าของมีผลต่อสุขภาพของธุรกิจ แม้เจ้าของจะได้รับเงินปันผลจากกำไร แต่การพึ่งพาเงินปันผลมากเกินไปอาจจำกัดความสามารถในการนำกำไรกลับมาลงทุนในธุรกิจ การจัดการการเงินส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมจะช่วยให้เจ้าของตัดสินใจทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น

 

การสื่อสาร

การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเป็นหัวใจของธุรกิจครอบครัว เนื่องจากบทบาทของสมาชิกครอบครัว เจ้าของ กรรมการ และผู้นำธุรกิจมีความเชื่อมโยงกัน การสื่อสารที่ดีจะสร้างความไว้วางใจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ท้าทาย

 

การเจรจาต่อรอง

เจ้าของมักต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของครอบครัวที่มีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การมีทักษะการเจรจาต่อรองที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญต่อการแก้ไขประเด็น เช่น บทบาทของครอบครัวในธุรกิจ หรือการจัดสรรผลประโยชน์ทางการเงิน

 

 

การพัฒนาสมรรถนะเหล่านี้ต้องใช้เวลา โดยเริ่มจากการประเมินระดับความรู้ปัจจุบันในแต่ละด้าน ดังนั้น เจ้าของธุรกิจครอบครัวจึงควรต้องกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำที่ต้องมี ครอบครัวสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรภายใน มีส่วนร่วมในโครงการภาคปฏิบัติ ทำงานกับที่ปรึกษาที่เชื่อถือได้ หรือเข้ารับการศึกษาจากสถาบันธุรกิจและหลักสูตรเฉพาะทาง ที่สำคัญ การละเลยไม่พัฒนาเจ้าของให้มีประสิทธิภาพอาจสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อธุรกิจครอบครัว มรดก และอนาคตได้


 

#ที่ปรึกษาธุรกิจครอบครัว #บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจครอบครัว
#ธุรกิจครอบครัว #ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจครอบครัว
#FAMZ #การสืบทอดธุรกิจ #การบริหารธุรกิจครอบครัว #การสืบทอดธุรกิจครอบครัว

 

ที่มา: The 10 Competencies Every Family Business Owner Needs https://familybusinessmagazine.com/ownership/values-ethics/the-10-competencies-every-family-business-owner-needs/

 

 

related

ธุรกิจครอบครัว How to ปรับตัวรับมือยุค AI

23/09/2024

Read

แนะนำหนังสือ บริหารธุรกิจครอบครัว ไม่ยากอย่างที่คิด

10/04/2024

Read

Do & Don’t และแผนการสืบทอดธุรกิจครอบครัว

26/02/2024

Read

อยากส่งต่อธุรกิจให้ทายาท ต้อง “ตึง หย่อน ผ่อน ปล่อย” แค่ไหนดี

18/03/2024

Read