กุญแจสำคัญที่จะช่วยให้การส่งต่อธุรกิจสำเร็จ คือ ทุนทางอารมณ์ (Emotional Capital) ซึ่งหมายถึง ความรัก ความไว้วางใจ ความรู้สึกผูกพัน และความรู้สึกเป็นเจ้าของ ที่สมาชิกครอบครัวมีต่อกัน และต่อธุรกิจ แล้วผู้นำธุรกิจควรทำอย่างไร เพื่อสร้างทุนทางอารมณ์ให้แข็งแรง และดึงดูดให้ทายาท Gen Z ซึ่งเติบโตมาในโลกดิจิทัล มีค่านิยมและความคาดหวังที่ต่างจากรุ่นก่อนๆ อย่างมากให้อยากสานต่อธุรกิจครอบครัว
1.ฟังทายาท Gen Z ให้มากขึ้น
เนื่องจากGen Z ต้องการ “เสียง” ในการตัดสินใจ และอยากให้ผู้ใหญ่รับฟังความคิดเห็นของพวกเขาจริงๆ ดังนั้น ทางเลือกสำหรับผู้นำธุรกิจครอบครัวที่อาจทำได้ อาทิ การจัดประชุมครอบครัว เพื่อเปิดให้ทายาทเสนอไอเดีย, อย่าด่วนตัดสินหรือปฏิเสธความคิดต่างอย่างรวดเร็ว
กรณีตัวอย่าง
• กลุ่มธุรกิจศรีจันทร์ (Srichand) แบรนด์แป้งฝุ่นที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 70 ปี เดิมเป็นธุรกิจของคนรุ่นพ่อ แต่รุ่นลูกคือ คุณสรพจน์ วัชรพล เข้ามารับฟังความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ และเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัย ด้วยการรีแบรนด์บรรจุภัณฑ์และกลยุทธ์การตลาดออนไลน์
• LEGO (เดนมาร์ก) ครอบครัว Kirk Kristiansen เปิดให้ทายาทรุ่นใหม่เข้ามาเสนอแนวคิดอย่างเสรี เช่น การพัฒนา LEGO Digital หรือ LEGO Video Games เพราะพวกเขารู้ว่าความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่เป็นสินทรัพย์สำคัญ
2. สื่อสารอย่างโปร่งใส
การปิดบังเรื่องสำคัญ เช่น ปัญหาการเงิน หรือแผนอนาคตอาจทำให้รุ่นลูกไม่มั่นใจและรู้สึกห่างเหิน ดังนั้น การแชร์ข้อมูลสำคัญตามความเหมาะสม และการใช้ภาษาง่ายๆ เพื่อสื่อสารให้ทายาทเข้าใจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้
กรณีตัวอย่าง
• เครือเบทาโกร ครอบครัวสุขวัฒนาพิบูล มักเน้นความโปร่งใสภายในครอบครัว จัด Family Council พูดคุยกันในประเด็นธุรกิจและความท้าทาย เพื่อให้ทุกคนมีข้อมูลที่เท่าเทียม และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
• BMW (เยอรมนี) ครอบครัว Quandt ผู้ถือหุ้นใหญ่ ใช้แนวทางประชุมครอบครัวอย่างเปิดเผย แชร์ข้อมูลธุรกิจทั้งด้านการเงินและกลยุทธ์ระยะยาว แม้จะเป็นบริษัทมหาชน เพื่อให้รุ่นลูกหลานเห็นภาพรวมธุรกิจชัดเจน
3. เปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้จริง
เนื่องจากคนรุ่น Gen Z เป็นกลุ่มที่ต้องการ “ลงมือทำจริง” เพราะมีความเชื่อบนพื้นฐานที่ว่า การเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือ การเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ดังนั้น หากผู้นำธุรกิจครอบครัวจะเปิดใจให้สมาชิกรุ่น Gen Z ได้ทดลองทำงานจริงในแผนกต่างๆ
และมอบหมายโครงการเล็กๆ ให้ดูแลเองจึงย่อมจะทำให้คนกลุ่มนี้ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงของตนเอง
กรณีตัวอย่าง
• กลุ่มมาลีสามพราน (Malee Group) คุณโชน โสภณพนิช ทายาทรุ่นใหม่ เริ่มเข้ามาฝึกงานในสายการผลิต ลงพื้นที่ไร่ผลไม้จริง เพื่อเข้าใจทั้งกระบวนการผลิตและปัญหาจริงของเกษตรกร ก่อนขึ้นมาบริหารธุรกิจระดับสูง
• LVMH (ฝรั่งเศส) เครือธุรกิจหรูหราของครอบครัว Arnault ให้ลูกหลานฝึกงานในแบรนด์ต่างๆ เช่น Louis Vuitton, Dior เพื่อให้เข้าใจแต่ละธุรกิจอย่างลึกซึ้งก่อนขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหาร
4. ให้พื้นที่สร้างสรรค์และทดลองสิ่งใหม่
คนรุ่น Gen Z เป็นเจเนอเรชั่นที่ชอบคิดนอกกรอบ ธุรกิจครอบครัวที่ยึดติดกับความสำเร็จในอดีตอาจพลาดโอกาสใหม่ๆ ได้ ฉะนั้น การเปิดพื้นที่สมาชิกคนรุ่นใหม่ได้ลองผิดถูก เพื่อการเรียนรู้และได้ทดลองสิ่งใหม่ๆ ตลอดจนการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ กับคนกลุ่มนี้
กรณีตัวอย่าง
• Jaspal Group ทายาทรุ่นใหม่ เช่น คุณศิริชัย ปัญจรุ่งโรจน์ นำไอเดียแฟชั่นใหม่ๆ มาปรับใช้ในกลยุทธ์ธุรกิจ เช่น การร่วม Collaboration กับศิลปิน และการขยายแบรนด์ไปสู่ตลาดต่างประเทศ
• Ford Motor Company (สหรัฐอเมริกา) ครอบครัว Ford เปิดโอกาสให้ทายาทเสนอแนวคิด เช่น การลงทุนด้านรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และเทคโนโลยีไร้คนขับ ซึ่งเป็นแนวทางที่ต่างจากธุรกิจดั้งเดิม
5. แสดงความรักและความใส่ใจอย่างสม่ำเสมอ
ทุนทางอารมณ์ไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่คือ “ความสัมพันธ์” ในครอบครัว ฉะนั้น การใช้เวลากับครอบครัวนอกเรื่องธุรกิจ ตลอดจน
การแสดงความรักและให้กำลังใจบ่อยๆ ย่อมจะทำให้คนรุ่นก่อนและ Gen Z มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้
กรณีตัวอย่าง
• เครือมังกรทอง (Lee Kum Kee หรือ ลีกุมกี) ผู้บริหารรุ่นพ่อแม่มักพาทายาทไปทำกิจกรรมครอบครัว นอกเหนือจากเรื่องงาน เพื่อสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น
• Ferrero (อิตาลี) เจ้าของแบรนด์ Nutella ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ในครอบครัวอย่างมาก จัด Family Day และมีกิจกรรมร่วมกันนอกเหนือจากธุรกิจ เพื่อให้ความผูกพันในครอบครัวเหนียวแน่น
เนื่องจากทุนทางอารมณ์ คือ รากฐานที่ทำให้ธุรกิจครอบครัวอยู่รอดและเติบโตได้จริง โดยเฉพาะเมื่อต้องส่งไม้ต่อให้ทายาท Gen Z ซึ่งมีมุมมองและความต้องการที่ต่างจากรุ่นก่อนๆ อย่างสิ้นเชิง
ดังนั้น ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการสืบทอด “เงิน” หรือ “เทคนิคการบริหาร” จึงมิใช่คำตอบสุดท้าย
แต่ผู้นำครอบครัวต้องรู้จักสร้าง “ทุนทางอารมณ์” จนรุ่นลูกหลานรู้สึกว่า “
นี่คือธุรกิจของฉัน และฉันอยากรักษาและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไป”
เพราะท้ายที่สุด
“ธุรกิจครอบครัวที่มั่นคง ไม่ได้สร้างด้วยเงินเพียงอย่างเดียว
แต่ต้องมีทุนทางอารมณ์เป็นรากฐานที่สำคัญ”
#ที่ปรึกษาธุรกิจครอบครัว #บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจครอบครัว
#ธุรกิจครอบครัว #ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจครอบครัว
#FAMZ #การสืบทอดธุรกิจ
#การบริหารธุรกิจครอบครัว #GenZ
บรรณานุกรม
• Astrachan, J. H., & Jaskiewicz, P. (2008). Emotional returns and emotional costs in privately held family businesses: Advancing traditional business valuation. Family Business Review, 21(2), 139–149.
• Tagiuri, R., & Davis, J. (1996). Bivalent attributes of the family firm. Family Business Review, 9(2), 199-208.
• PwC. (2023). Global Family Business Survey. PricewaterhouseCoopers.
• Deloitte. (2022). Next Generation Family Business Leaders. Deloitte Insights.
• ขอขอบคุณ ข้อมูลข่าวสารจากเว็บไซต์และบทสัมภาษณ์ผู้บริหารธุรกิจครอบครัวในไทย เช่น Srichand, Malee Group, Jaspal Group, เครือเบทาโกร