FAMZ

ทุนทางอารมณ์ Plug-in ที่ต้องมีกับทายาทรุ่น Gen Z

07/07/2025

 

 

 

 

 

 

กุญแจสำคัญที่จะช่วยให้การส่งต่อธุรกิจสำเร็จ คือ ทุนทางอารมณ์ (Emotional Capital) ซึ่งหมายถึง ความรัก ความไว้วางใจ ความรู้สึกผูกพัน และความรู้สึกเป็นเจ้าของ ที่สมาชิกครอบครัวมีต่อกัน และต่อธุรกิจ แล้วผู้นำธุรกิจควรทำอย่างไร เพื่อสร้างทุนทางอารมณ์ให้แข็งแรง และดึงดูดให้ทายาท Gen Z ซึ่งเติบโตมาในโลกดิจิทัล มีค่านิยมและความคาดหวังที่ต่างจากรุ่นก่อนๆ อย่างมากให้อยากสานต่อธุรกิจครอบครัว

 

1.ฟังทายาท Gen Z ให้มากขึ้น

เนื่องจากGen Z ต้องการ “เสียง” ในการตัดสินใจ และอยากให้ผู้ใหญ่รับฟังความคิดเห็นของพวกเขาจริงๆ ดังนั้น ทางเลือกสำหรับผู้นำธุรกิจครอบครัวที่อาจทำได้ อาทิ การจัดประชุมครอบครัว เพื่อเปิดให้ทายาทเสนอไอเดีย, อย่าด่วนตัดสินหรือปฏิเสธความคิดต่างอย่างรวดเร็ว

กรณีตัวอย่าง

 • กลุ่มธุรกิจศรีจันทร์ (Srichand) แบรนด์แป้งฝุ่นที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 70 ปี เดิมเป็นธุรกิจของคนรุ่นพ่อ แต่รุ่นลูกคือ คุณสรพจน์ วัชรพล เข้ามารับฟังความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ และเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัย ด้วยการรีแบรนด์บรรจุภัณฑ์และกลยุทธ์การตลาดออนไลน์

• LEGO (เดนมาร์ก) ครอบครัว Kirk Kristiansen เปิดให้ทายาทรุ่นใหม่เข้ามาเสนอแนวคิดอย่างเสรี เช่น การพัฒนา LEGO Digital หรือ LEGO Video Games เพราะพวกเขารู้ว่าความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่เป็นสินทรัพย์สำคัญ

 

2. สื่อสารอย่างโปร่งใส

การปิดบังเรื่องสำคัญ เช่น ปัญหาการเงิน หรือแผนอนาคตอาจทำให้รุ่นลูกไม่มั่นใจและรู้สึกห่างเหิน ดังนั้น การแชร์ข้อมูลสำคัญตามความเหมาะสม และการใช้ภาษาง่ายๆ เพื่อสื่อสารให้ทายาทเข้าใจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้

กรณีตัวอย่าง

 • เครือเบทาโกร ครอบครัวสุขวัฒนาพิบูล มักเน้นความโปร่งใสภายในครอบครัว จัด Family Council พูดคุยกันในประเด็นธุรกิจและความท้าทาย เพื่อให้ทุกคนมีข้อมูลที่เท่าเทียม และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

• BMW (เยอรมนี) ครอบครัว Quandt ผู้ถือหุ้นใหญ่ ใช้แนวทางประชุมครอบครัวอย่างเปิดเผย แชร์ข้อมูลธุรกิจทั้งด้านการเงินและกลยุทธ์ระยะยาว แม้จะเป็นบริษัทมหาชน เพื่อให้รุ่นลูกหลานเห็นภาพรวมธุรกิจชัดเจน

 

3. เปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้จริง

เนื่องจากคนรุ่น Gen Z เป็นกลุ่มที่ต้องการ “ลงมือทำจริง” เพราะมีความเชื่อบนพื้นฐานที่ว่า การเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือ การเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ดังนั้น หากผู้นำธุรกิจครอบครัวจะเปิดใจให้สมาชิกรุ่น Gen Z ได้ทดลองทำงานจริงในแผนกต่างๆ

และมอบหมายโครงการเล็กๆ ให้ดูแลเองจึงย่อมจะทำให้คนกลุ่มนี้ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงของตนเอง

กรณีตัวอย่าง

 • ลุ่มมาลีสามพราน (Malee Group) คุณโชน โสภณพนิช ทายาทรุ่นใหม่ เริ่มเข้ามาฝึกงานในสายการผลิต ลงพื้นที่ไร่ผลไม้จริง เพื่อเข้าใจทั้งกระบวนการผลิตและปัญหาจริงของเกษตรกร ก่อนขึ้นมาบริหารธุรกิจระดับสูง

LVMH (ฝรั่งเศส) เครือธุรกิจหรูหราของครอบครัว Arnault ให้ลูกหลานฝึกงานในแบรนด์ต่างๆ เช่น Louis Vuitton, Dior เพื่อให้เข้าใจแต่ละธุรกิจอย่างลึกซึ้งก่อนขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหาร

 

4. ให้พื้นที่สร้างสรรค์และทดลองสิ่งใหม่

คนรุ่น Gen Z เป็นเจเนอเรชั่นที่ชอบคิดนอกกรอบ ธุรกิจครอบครัวที่ยึดติดกับความสำเร็จในอดีตอาจพลาดโอกาสใหม่ๆ ได้ ฉะนั้น การเปิดพื้นที่สมาชิกคนรุ่นใหม่ได้ลองผิดถูก เพื่อการเรียนรู้และได้ทดลองสิ่งใหม่ๆ ตลอดจนการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ กับคนกลุ่มนี้

กรณีตัวอย่าง

 • Jaspal Group ทายาทรุ่นใหม่ เช่น คุณศิริชัย ปัญจรุ่งโรจน์ นำไอเดียแฟชั่นใหม่ๆ มาปรับใช้ในกลยุทธ์ธุรกิจ เช่น การร่วม Collaboration กับศิลปิน และการขยายแบรนด์ไปสู่ตลาดต่างประเทศ

Ford Motor Company (สหรัฐอเมริกา) ครอบครัว Ford เปิดโอกาสให้ทายาทเสนอแนวคิด เช่น การลงทุนด้านรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และเทคโนโลยีไร้คนขับ ซึ่งเป็นแนวทางที่ต่างจากธุรกิจดั้งเดิม

 

5. แสดงความรักและความใส่ใจอย่างสม่ำเสมอ

ทุนทางอารมณ์ไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่คือ “ความสัมพันธ์” ในครอบครัว ฉะนั้น การใช้เวลากับครอบครัวนอกเรื่องธุรกิจ ตลอดจน

การแสดงความรักและให้กำลังใจบ่อยๆ ย่อมจะทำให้คนรุ่นก่อนและ Gen Z มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้

กรณีตัวอย่าง

 • เครือมังกรทอง (Lee Kum Kee หรือ ลีกุมกี) ผู้บริหารรุ่นพ่อแม่มักพาทายาทไปทำกิจกรรมครอบครัว นอกเหนือจากเรื่องงาน เพื่อสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น

Ferrero (อิตาลี) เจ้าของแบรนด์ Nutella ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ในครอบครัวอย่างมาก จัด Family Day และมีกิจกรรมร่วมกันนอกเหนือจากธุรกิจ เพื่อให้ความผูกพันในครอบครัวเหนียวแน่น

 

เนื่องจากทุนทางอารมณ์ คือ รากฐานที่ทำให้ธุรกิจครอบครัวอยู่รอดและเติบโตได้จริง โดยเฉพาะเมื่อต้องส่งไม้ต่อให้ทายาท Gen Z ซึ่งมีมุมมองและความต้องการที่ต่างจากรุ่นก่อนๆ อย่างสิ้นเชิง

 

ดังนั้น ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการสืบทอด “เงิน” หรือ “เทคนิคการบริหาร” จึงมิใช่คำตอบสุดท้าย

แต่ผู้นำครอบครัวต้องรู้จักสร้าง “ทุนทางอารมณ์” จนรุ่นลูกหลานรู้สึกว่า “

นี่คือธุรกิจของฉัน และฉันอยากรักษาและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไป”

 

เพราะท้ายที่สุด

“ธุรกิจครอบครัวที่มั่นคง ไม่ได้สร้างด้วยเงินเพียงอย่างเดียว

แต่ต้องมีทุนทางอารมณ์เป็นรากฐานที่สำคัญ”  

 

 

#ที่ปรึกษาธุรกิจครอบครัว #บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจครอบครัว
#ธุรกิจครอบครัว #ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจครอบครัว
#FAMZ #การสืบทอดธุรกิจ  
#การบริหารธุรกิจครอบครัว #GenZ

 


 

บรรณานุกรม

 • Astrachan, J. H., & Jaskiewicz, P. (2008). Emotional returns and emotional costs in privately held family businesses: Advancing traditional business valuation. Family Business Review, 21(2), 139–149.

 • Tagiuri, R., & Davis, J. (1996). Bivalent attributes of the family firm. Family Business Review, 9(2), 199-208.

 • PwC. (2023). Global Family Business Survey. PricewaterhouseCoopers.

 • Deloitte. (2022). Next Generation Family Business Leaders. Deloitte Insights.

 • ขอขอบคุณ ข้อมูลข่าวสารจากเว็บไซต์และบทสัมภาษณ์ผู้บริหารธุรกิจครอบครัวในไทย เช่น Srichand, Malee Group, Jaspal Group, เครือเบทาโกร

related

จาก “ไซบัตสึ” สู่ “เคเระสึ” ep.2/3

วิวัฒนาการธุรกิจครอบครัวญี่ปุ่นหลังสงคราม

06/05/2025

Read

เติบโตหรือพอแค่นี้กับผู้นำที่ชี้ชะตาธุรกิจครอบครัว

เมื่อผู้ก่อตั้งก้าวลงจากตำแหน่งการเติบโตของธุรกิจก็ชะลอตัวลงเรื่อยๆจากเลขสองหลักเหลือเพียงเลขหลักเดียว

17/03/2021

Read

ศาสตร์ ‘ไคเซ็น’ หลักคิดพัฒนาต่อเนื่อง คืออะไร?

ทำไมธุรกิจครอบครัวญี่ปุ่น ใช้แล้วประสบความสำเร็จ

29/12/2023

Read

ความท้าทายของการสืบทอดธุรกิจครอบครัว

02/05/2024

Read